ฟิล์ม 80% 60% 40% คืออะไร
สีและความเข้มของฟิล์มได้มีการแบ่งกว้างๆ ออกเป็น 80% 60% และ 40% ซึ่งไม่ได้มีหลักเกณฑ์การวัดที่แน่นอนกำหนดไว้ และฟิล์มแต่ละแบรนด์เองก็มีเกณฑ์ในการกำหนดความเข้มที่ต่างกันออกไป ซึ่งสามารถอธิบายได้โดยสรุป ดังนี้
- ฟิล์มกรองแสง 80% ฟิล์มค่อนข้างมืด การมองเข้าจะเห็นได้น้อยมาก แสงสามารถผ่านได้ประมาณ 3%- 10%
- ฟิล์มกรองแสง 60% เป็นฟิล์มเข้มกลางๆ การมองเข้าอาจจะไม่ชัดเจนมากนัก แสงสามารถส่องผ่านได้ประมาณ 15%-25%
- ฟิล์มกรองแสง 40% หรือบางแบรนด์อาจจะบอกว่าเป็นฟิล์มใส โดยทั่วไป ฟิล์ม 40% จะเป็นฟิล์มที่สามารถมองเข้า-ออกเห็นได้ชัดเจน เพราะเป็นฟิล์มที่แสงสามารถส่องผ่านตั้งแต่ 35% ขึ้นไป
โดยปกติฟิล์มยิ่งใส ประสิทธิภาพการลดความร้อนก็จะลดลงตามไปด้วย เพราะคุณสมบัติของฟิล์มกรองแสงคือการสะท้อนออก ดังนั้นหากคุณต้องการฟิล์มใส ก็อาจจะยอมรับในเรื่องของประสิทธิภาพการลดความร้อนที่น้อยความฟิล์มเข้ม
แต่ปัจจุบันนี้ มีการคิดค้นการผลิตฟิล์มแบบใหม่โดยไม่ใช้เนื้อโลหะผสมเหมือนแต่ก่อน ทำให้อัตราการสะท้อนแสงต่ำ แต่สามารถช่วยลดความร้อนได้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งได้รับความนิยมกันมากในตอนนี้ คือ ฟิล์มเซรามิค นาโน (Ceramic Nano), ฟิล์มนาโน คาร์บอน (Nano Carbon) ฟิล์มประเภทนี้ มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มขึ้นมา คือจะไม่ลดทอนสัญญาณดิจิตอลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณ GPS, คลื่นโทรศัพท์, สัญญาณ WiFi ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้าปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
ฟิล์มเซรามิค ที่ทางร้านมีจำหน่าย SmartTec Nano Emporer, SmartTec Nano Supreme, SC Window Film และ Hi-Kool Black Carbon ซึ่งอาจจะแตกต่างจากฟิล์ม 3 รุ่นแรก เนื่องจากใช้ Nano Carbon มาเป็นส่วนประกอบในเนื้อฟิล์มแทนเนื้อโลหะ ทำให้ฟิล์มมีสีที่ดำสนิท สะท้อนแสงต่ำ และสามารถป้องกันรังสีอินฟาเรดได้ถึง 80%
วิธีดูแลรักษาหลังติดฟิล์มอาคาร
- ห้ามใช้กระดาษหนังสือพิมพ์, ผ้าหยาบ, ขนแปรง, สก็อตซ์ไบรต์ หรือวัสดุอื่นๆ เช็ดลงบนเนื้อฟิล์มกรองแสง ปกติตัวเนื้อฟิล์มจะเคลือบด้วยสารกันรอยขีดข่วนอยู่แล้ว แต่เนื้อวัสดุที่หยาบอาจจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ฟิล์มกรองแสงได้ แนะนำให้เช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำ เช็ดเบาๆลงบนแผ่นฟิล์ม หรือที่ใช้ที่เช็คกระจกโดยเฉพาะ
- ห้ามเช็ดล้างด้วยน้ำยาล้างกระจกที่มีส่วนผสมของสารแอมโมเนีย เพราะแอมโมเนียจะทำให้ฟิล์มแข็งกระด้าง และลดอายุการใช้งานของฟิล์มติดอาคารลง
วิธีดูแลกระจกหลังการติดฟิล์มกรองแสงรถ
- ห้ามเลื่อนกระจกขึ้น-ลง เป็นระยะเวลา 7 วัน หลังการติดตั้งฟิล์ม
- ภายในระยะเวลา 3 อาทิตย์ หลังติดฟิล์ม ห้ามใช้น้ำล้างกระจก และห้ามเช็ด ถู ด้วย สก็อตไบท์ หรือวัสดุอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ฟิล์มได้ง่าย ควรใช้ผ้าขนหนู หรือฟองน้ำในการเช็ดล้างกระจก แล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้านิ่มๆ
- ห้ามเช็ดล้างด้วยน้ำยาล้างกระจก ที่มีส่วนผสมของสารแอมโมเนียโดยเด็ดขาด ควรใช้น้ำสะอาดอย่างเดียวเท่านั้น
- ภายหลังการติดฟิล์ม หากกระจกมัว เป็นฝ้า หรือมีลักษณะคล้ายน้ำขังอยู่ อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1- 4 สัปดาห์
- ในกรณีที่จุดไข่ปลาตรงขอบกระจกนูนมาก ช่างจะไม่ติดฟิล์มทับจุดไข่ปลาตรงบริเวณของกระจกทั้งบานหน้าและบานหลัง เพราะการติดฟิล์มทับจุดไข่ปลาจะทำให้ฟิล์มไม่แนบสนิทและฟิล์มจะหลุดออกได้ง่าย
- หลังการติดฟิล์ม ถ้าสังเกตเห็นฟองอากาศ หรือฟิล์มหลุดที่มิใช่คราบน้ำขัง ให้รีบติดต่อร้านทันที เพื่อตรวจสอบและแก้ไข